วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

7 สูตรสวย ด้วย น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ

                        

       น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติทางยาคือ สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ เพราะมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึง น้ำผึ้ง มีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ ซึ่งทำให้แบคทีเรียไม่ไดไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้ น้ำผึ้ง ยังมีสารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งด้วย ดังนั้น เมื่อเราใช้น้ำผึ้ง ทาบาดแผลจึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และทำให้แผลไม่เกิดการอักเสบ


1.ดื่มทุกวัน เพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันมะเร็ง
ใช้ น้ำผึ้ง ไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Honey) 3
 ช้อนชา และน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลไม่ผ่านความร้อน (Raw Organic Apple Cider Vinegar) 3 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอน และระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน

2.เมนูสุขภาพ ลดความอ้วน
นำผลไม้ต่าง ๆ มาหั่นเป็นลูกเต๋า เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม ตามชอบ ราดด้วยโยเกิร์ต ลูกเกด และ น้ำผึ้ง ไม่ผ่านความร้อน คุณก็จะได้อาหารเช้าที่มีประโยชน์ อร่อย อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุอาหาร เอนไซม์ และโปรตีนที่ย่อยง่าย

3.ดื่มให้หลับสบาย ผ่อนคลายตลอดคืน
ใครนอนไม่ค่อยหลับ ลองผสม น้ำผึ้ง กับ น้ำอุ่น หรือนมร้อนจะช่วยให้หลับสบาย แต่ถ้าได้ร่วมกับการนั่งสมาธิสัก
 5 นาทีก่อนนอน เพื่อให้ได้หยุดพักความคิดและปล่อยวางความเครียดลงบ้าง จะยิ่งทำให้นอนหลับสนิทต่อเนื่องตลอดคืน และตื่นมาอย่างสดใส

4.ย้อนวัยผิวใส
ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยน อดหลับอดนอนจนหน้าแห้งกร้าน หรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง แล้วนำกล้วยหอมครึ่งลูกมาบดผสมกับ น้ำผึ้ง ที่ไม่ผ่านความร้อน ทาบนหน้าทิ้งไว้
 10-15 นาที แล้วล้างออก เอนไซม์ในน้ำผึ้งจะคืนความชุ่มชื่นนุ่มนวลให้ผิวอย่างรวดเร็ว

5.กำจัดสารเคมีและปลุกชีวิตเส้นผม
หลังสระผมเสร็จ นำ น้ำผึ้ง ไม่ผ่านความร้อน 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ ชโลมผมแล้วทิ้งไว้ 5 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมจะนิ่มและเงางามตามธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีใด ๆ

6.แก้ไอ หลอดลมอักเสบ กำจัดเสมหะ
ตำกระเทียม 1-2 กลีบให้ละเอียด ผสมกับน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย พิมเสน หรือการบูร 2-3 เกล็ด และ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะกวาดคอทุกชั่วโมง

7.บรรเทาอาการตับแข็งจากสุรา
ผสม น้ำผึ้ง
 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำครึ่งแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งเป็นประจำ และดื่มน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนนอน


วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พฤติกรรมส่งผลต่อสุขภาพ ที่สาวอยากสวยพึงระวัง

1.การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ 

          ว่ากันว่าคุณสาว ๆ ในปัจจุบันนิยมใส่รองเท้าส้นสูงในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นข่าวร้ายต่อสุขภาพก็ว่าได้ เพราะรองเท้าส้นสูงจะส่งผลต่อท่าทางการเดิน และสร้างแรงกดไปที่บริเวณข้อต่อ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคข้ออักเสบ หรือโรคเท้าค้อน อาการปวดหลังและการบาดเจ็บเส้นเอ็น ก่อนที่จะนำไปสู่โรคอื่น ๆ และอุบัติเหตุที่บริเวณเส้นเท้าของคุณ ดังนั้นเพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงเกินไปนั้น ขอแนะนำว่าคุณสาว ๆ ควรใส่รองเท้าที่มีส้นสูงไม่เกิน 1.5 นิ้ว ในชีวิตประจำวัน ตรงนี้ก็ช่วยลดอาการที่กล่าวมาข้างต้นได้ 





 2.หิ้วกระเป๋าที่หนัก 

          ในกระเป๋าของคุณสาว ๆ ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์สำหรับเสริมสวยต่าง ๆ มักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณสาว ๆ ได้ เพราะจริง ๆ แล้วเจ้าอุปกรณ์ความสวยความงามเหล่านี้ จะทำให้คุณสาว ๆ ต้องแบกกระเป๋าหนักหลายสิบกิโลทุกวันโดยที่คาดไม่ถึง ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งคุณไม่สามารถเห็นผลของมันได้ในขณะนี้ เพราะการลากหรือถือกระเป๋าหนัก ๆ จะทำให้เกิดการปวดร้าวที่บริเวณต้นคอ เช่นเดียวกับการวางท่าทางไม่ถูกต้อง 

          ดังนั้นคุณสาว ๆ ก็ไม่ควรที่จะรอจนกว่าปัญหาจะเกิด โดยการให้ความสนใจในเรื่องนี้ และพยายามเก็บสิ่งของที่รกเกินความจำเป็นเหล่านี้ออกจากกระเป๋าถือของคุณซะ และเลือกเก็บไว้เฉพาะสิ่งของที่จำเป็น แล้วเปลี่ยนมาใช้ถุงหรือกระเป๋าที่มีขนาดเล็กแทน 



 3.นอนแต่งหน้า 

          คุณสาว ๆ ส่วนใหญ่มักชอบการนอนโพสท่าทำสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะการแต่งหน้าในบางจุด แนะนำว่าควรเลิกแต่งหน้าในตอนกลางคืน พร้อมกับชำระล้างสิ่งสกปรกและน้ำมันที่สะสมอยู่ในผิวตามธรรมชาติให้สะอาดหมดจด เพราะการแต่งหน้าในตอนกลางคืนนั้นจะทำให้ไขมันอุดตันที่รูขุมขนจนก่อให้เกิดสิวบนใบหน้า และก่อให้เกิดจุดด่างดำจากสิวได้ ขณะเดียวกัน การนอนพร้อมกับมาสคาร่า และการแต่งหนังตาบน ยังทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาจนแดงก่ำ หรือการติดเชื้อได้นั่นเอง 

 4.เมาค้าง 

          แม้มีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องทุกข์ทนกับพฤติการณ์ดื่มแอลกอฮอล์ของแฟนหรือเพื่อนผู้ชาย แต่สำหรับคุณสาว ๆ ที่นิยมดื่มแอลกอฮอล์นั้น ว่ากันว่าจะเจือจางแอลกอฮอล์ได้น้อยกว่าผู้ชาย หรือเมาได้เร็วกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าผู้ชาย 

          ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพของคุณสาว ๆ แนะนำให้สาวนักดื่มทั้งหลายปฏิบัติตามทฤษฎีการดื่มของมึนเมา โดยเฉพาะการดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ สลับกับแอลกอฮอล์ก็จะช่วยลดอาการเมาได้ 

 5.สวมชุดชั้นในขนาดที่ไม่ถูกต้อง 

          ผู้หญิงกว่าร้อยละ 70 มักใส่ชุดชั้นที่ไม่พอดีกับรูปร่างของตนเอง ซึ่งการใส่ชุดชั้นในที่ไม่พอดีกับรูปร่างไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์เสื้อผ้าของคุณ แต่การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย เช่น การปวดคอและปวดเต้านม และมีปัญหากับการหายใจ ทำให้การวางท่าทางไม่ถูกต้อง เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ส่งผลให้ลำไส้เกิดความแปรปรวนไหลเวียนได้ไม่ดี 

          แต่หากคุณสาว ๆ ไม่สามารถหาชุดชั้นในที่พอดีกับรูปร่างได้ แนะนำให้เลือกซื้อชุดชั้นในจากร้านที่ตัดวัดโดยเฉพาะ นอกจากจะช่วยให้ได้ชุดชั้นในที่พอดีกับรูปร่างแล้ว ยังช่วยลดอาการข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้นได้อีกด้วย 



 6.ซ่อนความกังวลและความเสียใจเอาไว้ 

          อย่างที่รู้กันดีว่าความเครียดจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตของเรา และผู้หญิงอย่างเรา ๆ นั้นมักจะมีแนวโน้มในการเกิดความผิดปกติอันเกิดจากความเครียดได้ถึง 2 เท่า ขณะเดียวกันความเครียดยังเป็นตัวการหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ 

          จากผลการวิจัยด้านชีววิทยายังระบุอีกว่า ความกังวลเกี่ยวเหตุการณ์ในอนาคต เรื่องของที่พักอาศัยนั้น ถือเป็นการเพิ่มปัญหาหรือความกังวลให้กับมนุษย์เราได้ และการวิจัยยังบอกอีกว่าผู้หญิงมักเสียใจเป็น 2 เท่า หากต้องสูญเสียคนรักไป และจำเป็นต้องเลิกรากับแฟน 





 7.ชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารหวาน ในขณะเครียด หรือเสียใจ

          ความสบายใจในการรับประทานอาหารจะส่งผลต่อรูปร่างของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย จากการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะสร้างอารมณ์ให้แจ่มใสในระหว่างการรับประทานอาหาร ในขณะที่ผู้หญิงจะเจริญอาหารก็ต่อเมื่อพวกเธอรู้สึกเศร้าหรือเสียใจ และผู้หญิงยังมีแนวโน้มที่จะตอบสนองความเครียดของพวกเขาด้วยขนมหวาน รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง แทนที่จะปล่อยให้ตนเองหิว พยายามพาตนเองออกมาจากความหิว โดยการทำให้ตนเองมีความสุขกับสิ่งที่ทำ และเพิ่มสารเอ็นโดฟีนส์ให้กับร่างกายของคุณโดยการออกกำลังกาย 



 8.พักผ่อนมากเกินไป 

          หากการนอนไม่พอทำให้เรารู้สึกเลวร้ายที่สุดลองฟังทางนี้ จากสถิตินั้นชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงช่างโชคร้าย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนอนไม่พอ จะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในขณะที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่ามีผู้หญิงจำนวน 2 เท่า จะรีบเข้านอนเร็วเพื่อที่จะใช้เวลาไปดูแลคนอื่น ๆ ต่อไป 

          ความโชคร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะการวิจัยยังพบอีกว่า การนอนหลับในผู้หญิงจะส่งผลต่ออารมณ์และความดันโลหิตของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นขอแนะนำว่า ควรนอนให้พอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะการพักผ่อนที่ดีควรจะนอนอยู่ในระหว่าง 8 ชั่วโมง 


 9.คิดถึงแต่คนอื่น ไม่ดูแลตัวเองบ้าง 

          จากสถิติบอกว่าผู้หญิงมักมีนิสัยที่จะอดหลับอดนอน หรือเสียสละเวลาเพื่อไปดูแลเด็กและผู้อื่น หรือพูดง่าย ๆ ว่าพวกเธอแทบไม่มีเวลา แม้กระทั่งการเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ดังนั้นหลีกเลี่ยงการใช้ตัวเองเป็นตัวรองรับทุกสิ่ง แม้บางครั้งจะไม่มีใครขอร้องให้ทำเช่นนั้น ในวันหยุดสุดสัปดาห์ข้างหน้าที่จะมาถึง ขอแนะนำให้คุณสาว ๆ ทำสิ่งที่ตนเองคิดว่าสนุกและชอบเสียบ้างก็จะดี เพื่อป้องกันปัญหาความเหนื่อยล้า และความเครียดที่อาจตามมาจากการทำงานหนักนั่นเอง